ครอบครับของผม

สไบงาม ถามใคร

ชื่อเรื่อง : สไบงาม   ถามใคร
(แก้หัวข้อครับ)

มีทั้งหมด 10 กรณี 10 หน้า

1. สไบงามดูทีวี ทั่วถิ่นเขาก็มีเทศกาล ทุกที่เข้าก็จัดงานอนุรักษ์ประเพณี

2. คุณพ่อชวนไปงานประจำปี สไบงานพลัดขี้สงสัยว่านี่เค้าทำอะไร คุณพ่อบอกว่าประเพณี

3. คุณตาเอาน้ำมาสาดสไบงาม เธอจึงห้าม "หนูเปียก หนูเปียก" คุณตาจึงเรียกหนู ๆ มาเล่นน้ำวันสงกรานต์กัน

4. สไบงามไปวัดกับคุณยาย เอ๊ะ ! สงสัยว่าทำอะไร สไบงามเดินเข้าไป เฟ็นคุณยายกำลังไหว้ "คุณยาค่ะกำลังไหว้ใคร" คุณยายตอบให้ "เราต้องเลื่อมใสในศาสนา"

5. สไบงามเดินเล่นกับพี่ เอ๊ะ ! ผ้าสี ๆ นั่นใครกัน พี่บอกควรจำนั่น เป็นผู้หญิงห้ามโดนพระ

6. สไบงามพับใบตองไปลอยน้ำ คุณอาถามพร้อนจะไปลอยกระทงกันหรือยัง

7. คุณป้าแต่งตัวสวย สไบงามอยากใส่ จึงถามคุณป้าว่าใส่ชุดอะไร คุณป้ายื่นชุดให้ ใส่ผ้าไทยเราเอง

8. คุณย่าจะไปวัด เอ๊ะ ! เข็มขัดคุณย่าสวยดี สวยจังผ้าผืนนี้ "นี่ผ้าไหมไงหล่ะจ๊ะ"

9. สไบงามเรียนศิปะ คุณครูก็จะให้ร้อง เล่น วาด คุณครูก็ไม่พลาด ที่จะสอน ศิลปะไทย

10. สไบงามทำการบ้าน ครูให้เขียนภาษาไทย สไบงามถามแม่ ภาษาไทยคืออะไร แม่ตอบทันใด "ภาษาไทยคือภาษาประจำชาติ"

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อัพเดตครั้งสุดท้าย

ก่อนที่จะออกมาเป็นผลงานได้ ผมต้องบอกครับ ว่ามีอุปสรรคค่อยค่างเยอะ ผมเลยต้องเปลี่ยนแนวอย่างกระทันหัน แต่ยังคงคอนเสปไทย ๆ แบบเดิมครับ ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก แค่เปลี่ยนฉากครับ เดี๋ยวมาดูรายละเอียดใหม่ก่อนครับ

Theme ค่านิยม 12 ประการ รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม

ชื่อเรื่อง สไบงาม ถามใคร

กลุ่มเป้าหมาย ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย

ประเภทหนังสือ หนังสือเสริมประสบการณ์

แก่นของเรื่อง / สาระสำคัญ เด็กขี้สงสัย กับวัฒนธรรมปนะเพณีที่ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวัน

โครงสร้างเนื้อหา / ความนำและท้าย

            หนังสือเล่มนี้จะสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนไทย ซึ่งมีวัฒนธรรม ประเพณีกันทั้งในระดับ ครอบครัว ระดัยสังคม ซึ่งจะนำเสนอผ่านเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งชื่อสไบงาม เป็นเด็กที่มีความขี้สงสัย เป็นเด็กสมัยใหม่ ที่ไม่ค่อยเห็นวัฒนธรรม และเมื่อเห็น จึงเกิดความสงสัยกับคนในครอบครัว และนั่นคือการปลูกฝังให้เด็กคนนี้รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม โดยตัวการ์ตูนทุกตัวในเรื่องจะสวมใส่ผ้าไทย คล้ายกับเป็นซิ่น ผ้านุ่ง ซึ่งหาชมได้ยาก

เนื้อเรื่อง

            เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งชื่อว่า สไบงาม เด็กคนนี้ได้มองเห็นวัฒนธรรมใกล้ตัว และเกิดความสงวัย จึงถามคนรอบข้าง ผ่านเนื้อหากรณีทั้ง 10 ซึ่งแยกเป็นฉาก 1 ดังนี้

1.       กำลังดูทีวี และในทีวีมีประเพณีถ่ายทอดอยู่

2.       สไบงามไปงานประจำปีกับคุณพ่อ

3.       คุณตาของเขาเอาน้ำสามาด และชวนเล่นสงกรานต์

4.       สไบงามเห็นคุณยายนั่งไหว้พระอยู่ เธอจึงเข้าไปไหว้

5.       พี่ของสไบงามพาไปเดินเล่น แต่เจอพระ พี่ของเธอจึงบอกเป็นผู้หญิงห้าโดนพระสงฆ์

6.       สไบงามเตรียมกระทงไปลอย ประเพณีลอยกระทงที่หมู่บ้าน

7.       คุณป้าของสไบงามชวนเธอแต่งชุดไทย

8.       คุณย่าบอกสไบงามว่านี้คือผ้าไทยเราเอง

9.       ครูสอนศิลปะเกี่ยวกับลายไทยที่มีเอกลักษ์

10.   เธอทำการบ้านแล้วเกิดข้อสงสัยเลยถามคุณแม่ คุณแม่ตอบว่านี่คือภาษาไทยของเรา

อันนี้คือตัวละครชื่อสไบงามนะครับ ตัวหลัก

เป็นสาวน้อยบ้าน ๆ น่ารักครับ

ฉาก

ฉากนะครับ ผมจะโหลด vector มาครับ เพราะว่ามันใหม่ และยังไม่ค่อยเห็นคนทำลายนี้

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สุดท้ายนี้ ผลงานของผมออกมาเป็นรูปร่างแล้วครับ

การทำหนังสือสำหรับเด็กเล่มหนึ่งนี้ ถ้าจะถามว่ายากไหม ตอบเลยว่ายากครับ แต่ว่า พอได้ศึกษาทฤษฎี แล้วก็วิธีการที่ครูนำมาสอนในชชั้น บอกกับไปหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ มา มันก็พอไปได้ครับ จากคนที่วาดการ์ตูนไม่เป็น ก็กล้าที่จะวาด ถึงแม้ยังไม่ค่อยสวย 

คล้าย ๆ กับเป็นดัมมี่รูปเล่มที่ลองพิมพ์มา

เดี๋ยวไปดูรูปเล่มกันซักนิดครับ

หน้าปก

เนื้อเรื่องซักเล็กน้อยครับ

สุดท้ายนี้อยากบอกว่า ขอบคุณอาจารย์ ขอบคุณแหล่งข้อมูลทุกแหล่งครับ ที่ทำให้ผมสร้างารรค์ผลงานนี้ออกมาได้

แล้วพบกับความขี้สงสัยของเด็กน้อยที่ชื่อ สไบงามได้ ในรูปเล่มจริงครับ สวัสดีครับ ^^!

Safari มีบูรณาการ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - -

มีนิทาน นมนาน กาเล

นิทานเรื่องนี้ นิทานเรื่องนี้ นิทานเรื่องนี้

Theme ค่านิยม 12 ประการ รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม

ชื่อเรื่อง

กลุ่มเป้าหมาย ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย

ประเภทหนังสือ หนังสือเสริมประสบการณ์

แก่นของเรื่อง / สาระสำคัญ กว่าจะเป็นผ้าไหมไทย

โครงสร้างเนื้อหา / ความนำและท้าย

            หนังสือเล่มนี้จะสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไทยในการปลูกหม่อน เลี้ยงไหมเพื่อทอผ้าไว้เป็นเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องใช้ต่าง ๆ  ซึ่งหนังสือเล่มนี้ จะเป็นการเล่าเรื่องราวตั้งแต่ เรื่องเล่าของผ้า การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม จนไหมสุก และนำไหมมาย้อมสีทอผ้า จากนั้น นำผ้ามาตัดเย็บ เพื่อใส่ไปในงานต่าง ๆ ตามคำบอกเล่าของคนเฒ่า คนแก่ ผ่านตัวละครหลีก คือ ผ้าไทย(เด็กน้อยที่มาจากหน้าหมู่บ้าน) สไบงาม(เด็กน้อยในชุมชน) ป้ามัดหมี่(ผู้รู้ในชุมชน)

ฉาก

1.         งานประจำปีของหมู่บ้าน

2.         ฟาร์มปลูกหม่อน เลี้ยงไหม

3.         โรงทอผ้า

4.         บ้านคุณป้ามัดหมี่ (ตัดเย็บ)

ในฉากแต่ละฉากนั้น จะมีผ้าไทย ที่เป็นพร็อปของฉาก ซึ่งในที่นี้ จะนำเอาผ้าของจริง มาติดไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย

เนื้อเรื่อง

            เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งชื่อว่า ผ้าไทย เธอเป็นเด็กที่อยู่หน้าหมู่บ้าน ซึ่งหน้า กับ ท้ายหมู่บ้านต่างกันมาก และเธอโดนห้ามไม่ให้ไปเล่นท้ายหมู่บ้าน เพราะทางเข้ามันน่ากลัว มาวันหนึ่ง เพื่อนที่โรงเรียนของเธอ สไบงาม ชวนเธอไปงานประจำปีของหมู่บ้าน ซึ่งผู้ปกครองของเธอก็อนุญาต เธอไปงานพร้อมกับสไบงามที่แต่งตัวด้วยผ้าไหมที่ทอจากหมู่บ้าน ส่วนเธอ แต่งตัวธรรมดาเข้าไปในงาน เธอรู้สึกว่าคนอื่นแต่งตัวไม่เหมือนเธอ ผ้าไทยจึงถามสไบงาม ว่าเสื้อผ้าที่ชาวบ้านใส่กันนั้นคือชุดอะไร มากจากไหน จากนั้นสไบงามก็พาเธอไปดูวัฒนธรรมเกี่ยวกับผ้า ตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี่ยงไหม จนถึงการนำมาทอผ้า ที่บ้านของคุณป้ามัดหมี่ และคุณป้ามัดหมี่ได้อธิบายว่าทำไม ชาวบ้านถึงใส่ผ้าไทยไปงานกัน

-----------------------------------------------------------------------------------------

นิทานเรื่องนี้ มีอัพเดต
Update นิทานนะครับ

1. ผมได้เขียนสตอรี่บอร์ด แต่เป็นลายมือของผมเองนะครับ (ขออภัย)
2. ได้จัดวางหน้าแล้วครับ เป็นหน้าคู่เลย

3. ขนาดเล่มเป็น A5 นะครับ

5. ออกแบบตัวการ์ตูน Character ละครที่ชื่อ ผ้าไทย ครับ แต่ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

6. ผ้าที่ใช้นุ้งตัวการ์ตูน จะเป็นผ้าจริงครับ เพิ่มการรับรู้ สัมผัสของเด็กครับ

Prince of E-San

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.ubu.ac.th/new/index.php?page=ubu_event&id=8342

บทความเกี่ยวกับการศึกษาการพิมพ์ในรายวิชา : ET441 การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

ลายพิมพ์ที่ติดตัวเรา

        สวัสดีครับพบกันอีกแล้วนะครับ ครั้งนี้ผมจะนำเสนอการพิมพ์ ที่บางคนอาจไม่คิดว่าการพิมพ์ครับ ฟังดู งง ๆ ใช่ไหมครับ

        การพิมพ์ที่ว่านี่คือการพิมพ์ที่เรียกว่าอยู่ในร่างกายของเราเป็นประจำนี่แหละ คิดเยอะแล้วใช่ไหมครับ นั่นคือ "การพิมพ์ผ้า" นั่นเอง
        
        และทุกคนคงเคยเห็นคำนี้บ่อย ๆ ไหมครับ ยิ่งเป็นเด็กมหาลัยแล้วละก็ สกรีนเสื้อ เวลามีงาน กิจกรรม เสื้อรุ่นอะไร ก็ "สกรีนเสื้อ" นี่ก็คือ 1 ในเทคโนโลยีการพิมพ์ครับ  ที่ส่งผลกับคนส่วนมากในปัจจุบัน 

        การสกรีนเสื้อถือว่าเป็นเทคโนโลยีการพิมพ์เบื้องต้น ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีแนวโน้มที่จะได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ทันสมัยมากขึ้น เพราะการสกรีนเสื้อนี้ทำได้ง่าย และอิทธิพลของการพิมพ์ประเภทนี้ จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ สื่อสิ่งพิมพ์ประเภท การพิมพ์ผ้า ซึ่งเป็นการสื่อสารปนะเภทหนึ่งออกมาทางลายเสื้อ ลายกางเกง ตลอดจนผ้าทุกชื้นที่ติดอยู่กับร่างกายของคนเรา หรือแม้แต่ผ้าม่าน หรือผ้าต่าง ๆ ล้วนผ่านการพิมพ์มาทั้งนั้น แต่วันนี้ขอยกตัวอย่างการสกรีน
        

แค่เราออกแบบลายเสื้อ

จากนั้นเราก็ส่งร้านเสื้อ ให้เค้าทำบล็อกออกมา

นำบล็อกที่ได้มาสกรีนสีลงบนเสื้อ(จำนวนมาก)

และจะได้เสื้อที่สวยงาม ลวดลายตามต้องการครับ

Slave and Chain

Slave And Chain !!

        ถ้ามองภาพนี้ผ่าน ๆ บางคนอาจคิดว่า นี่คือรูปอะไร แน่นอนว่าสมัยนี้ทุกคนเดินผ่านไป ผ่านมา คงเห็นภาพติดตาที่คนทุกเพศ ทุกวัย กำลังก้มหน้า ก้มตาอยู่กับกล่องสี่เหลี่ยมที่เกือบจะกลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว
     
         สิ่งนี้แหละมันกำลังมาทั้งประโยชน์ และโทษมาด้วยกัน การที่สื่อสังคมออนไลน์หรือ Social Network อยู่ที่ว่าคนเราจะให้ความสำคัญกับมันแค่ไหน เบื้องต้น คุณควรตรวจสอบตัวเองว่าจำเป็นไหม ที่จะเอาโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นเวลาเรียน เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเวลากินข้าว หรือเวลาทำกิจวัตรต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น ถ้าคนคิดจะกระทำความคิดพื้นฐานเหล่านี้ได้ ก็จะเป็นผลดีกับตัวเรา สังคมมาก ยิ่งนำกลับมาคิดถึงตัวเองก็มีพฤติกรรมนี้ ยิ่งต้องคิดหนัก และพยายามเตือนตัวเองไม่ให้ตกเป็น ทาส ของโลกโซเชียลได้
         ผมก็เลยเกิดแนวคิดอยากจะทำรูปภาพเพื่อสะท้อนถึงการใช้โซเชียลมากเกินไป จนบางครั้งเป็นเหมือนยาเสพติดที่ใคร ๆ ก็ขาดไม่ได้จนต้องสื่อสารออกมาเป็นรูปภาพที่ ทุกคนกำลังถูกชักจูงจากสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ด้วยโซ่ และเราจะมีวิธีเปลี่ยนมาเป็นคนชักจูงสื่อสังคมออนไลน์นี้ยังไง ^^!

เรื่องเทพ ๆ

      

เรื่องเทพ ๆ

       หากแต่จะกล่าวถึงสื่อสิ่งพิมพ์แล้วละก็สิ่งที่ทุกคนนึกถึงเป็นสิ่งแรกคงจะหนีไม่พ้น "หนังสือ" ใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้ว “ สื่อสิ่งพิมพ์” มีความหมายว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใด ๆ ด้วยวิธีต่าง ๆ อันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือนต้นฉบับขึ้นหลาย "สำเนา" ในปริมาณมากเพื่อเป็นสิ่งที่ทำการติดต่อหรือชักนำให้บุคคลอื่นให้เห็นหรือทราบข้อมูลต่าง ๆ” สิ่งพิมพ์มีหลายชนิด ได้แก่ เอกสารหนังสื่อเรียน หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร บันทึก รายงาน ฯลฯ

        พูดไปนานผมลืมเลยว่า เราห่างหายกันไปนานจากตอนนั้นนะครับ แต่ก็ไม่ได้ไปไหนครับ ยังคิดถึงบล็อกนี้อยู่ตลอดเวลา

        ครั้งนี้นะครับมีหนังสือดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ด้วย ซึ่งหนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือเกี่ยวกับ

เทพนิยาย กรีก โรมัน

ถ้าหากว่าพูดถึง เทพ กรีก โรมัน นึกถึงใครกันบ้างครับ

      ซุส

เทพีเฮรา

คิวปิส (อีรอส)

  โพไซดอน

        เพื่อน ๆ คงเคยได้ยินกันบ้างแล้วใช่หรือเปล่าครับ ผมอยากบอกว่าหนังสือเทพนิยายกรีกทุก ๆ เล่มน่าอ่านมากครับ

ในหนังสือมีอะไรบาง

1. ประวัติของเทพแต่ละองค์ ซึ่งมันจะเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติด้วย

2. สัตว์ต่าง ๆ ในเรื่องจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ และสถานที่ในปัจจุบัน

3. เทพเจ้าทุกองค์จะมีลักษณะเฉพาะเป็นของตนเอง

4. ที่เรียกว่าเทพกรีก โรมัน ไม่ได้มีเฉพาะเทพเท่านั้น แต่ยังแบ่งได้อีกเป็น เทพ       โอลิมปัส เทพชั้นรอง อมนุษย์ เจ้าชายเลือดผสม เป็นต้น

5. หนังสือเทพนิยาย กรีก โรมัน หลายเล่ม ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์เช่น Clash of The Titan,                     Percy Jackson, Hercules เป็นต้น

6. คนโบราณเชื่อว่าเทพทุกองค์เป็นต้นกำเนิดของสิ่งต่าง ๆ บนโลก ซึ่งต่างศาสนากันไป จะมีอารยธรรม       ความเชื่อ พิธีกรรมที่ต่างกัน

        ส่วนตัวแล้วคิดว่าหนังสือประเภทนี้หลาย ๆ คนคงอ่านแล้วไม่เข้าใจ หรือหลาย ๆ คนคงอ่านแล้วเกิดรัก น่าติดตาม ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน อีกอย่างคือ เรื่องราวพวกนี้ ปัจจุบัน มีคนมาทำเป็นภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ของคน ซึ่งแต่ละคนจะมีวิธีรับรู้ที่ไม่เหมือนกัน