ว่าด้วยเรื่องของเวลากับการเรียนรู้
การเรียนรู้ของทุกคนนั้นเกิดในลักษณะที่ต่างกัน
สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้นั้นมีหลายอย่าง ทั้งเวลา อวัยวะสัมผัส สิ่งเร้า
รวมถึงสิ่งเป็นสารสื่อประสาทหรือสารเคมีในสมอง
ต่างมีหน้าที่คอยอำนวยการรับรู้ของคนทั้งสิ้น เมื่อเราเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ
แล้วจะทำให้เราเกิดกระบวนการเรียนรู้ซึ่งเกิดต่อกันมา จากการสัมผัส ส่งไปเรื่อย ๆ
ตามเส้นทางไปสู่สมอง ไปให้เป็นวิธีการประมวลผล รวมถึงการประยุกต์ด้วย แล้วจึงสั่งการกลับมายังสิ่งที่เราต้องการกระทำนั้นได้
นอกจากนั้นสิ่งที่มีอิทธิพลของการรับรู้เป็นอย่างมากคือ
เวลา ซึ่งในที่นี้หมายถึง เวลาที่เรานั้นมีสภาพพร้อมที่จะเรียนรู้
สามารถระลึกและจดจำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ได้
เวลานั้นควรทำในช่วงที่ตนเองพร้อมและมีสภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่สุด
การเปิดโอกาสให้ตนเองมีส่วนร่วมในการกระทำที่สนใจเยอะ
ๆ การตอบกลับทันทีจะทำให้เราบันทึกไว้ในใจได้
จะเป็นการกระตุ้นให้อยากกระทำซ้ำอีก แต่ถ้าเราจำไม่ค่อยได้ว่าผิดตรงไหน
จะแก้ไขอย่างไร การหาประสบการณ์จากสิ่งที่ตนเองทำบ่อย ๆ
หรือการทำซ้ำถ้าหากจำไม่ได้ การหันกลับมาดูตนเองบ้างหรือการประเมินในตนเอง
จะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มั่นคงและถาวรได้
มาถึงตัวเคนเองบ้างครับ
อย่างที่บอกมาว่าการรับรู้นั้นแต่ละคนมีลักษณะ และช่วงเวลาการเรียนรู้ที่ต่างกัน
เวลาไหนควรจะปฏิบัติอะไรดี มันขึ้นอยู่กับการบริหารเวลาในตนเองด้วยครับ ซึ่งเคนก็คิดว่าเวลา
สาย ๆ หรือก่อนเที่ยงนั้น เป็นช่วงเวลาที่พร้อมต่อการรับรู้ของเคนที่สุดครับ
เริ่มจากที่ได้สังเกตตนเองนี่แหละครับ การลองทำงานในทุกช่วงนั้น
รวมถึงการอ่านหนังสือ
เริ่มจากการอ่านหนังสือครับ
ซึ่งผมรู้ได้จากการอ่านหนังสือเป็นอันดับแรก
การอ่านหนังสือในตอนกลางวันมันจะทำให้จำได้กว่าอ่านตอนดึก หรือตอนกลางคืน
ลองทำมาหลายครั้งแล้วครับ แล้วต่อมาก็ได้ผลจริง ๆ ครับ
รวมถึงการใช้สมองคิดอะไรนั้น ตอนกลางวันจะดีกว่าตอนกลางคืนครับ พอเรารู้ว่าตอนกลางวันดีกว่าตอนกลางคืนแล้ว
เคนก็สังเกตตัวเองอีกว่า เวลาไหนที่ดีที่สุด ปรากฏว่าตอนสาย ๆ นี่แหละครับ
เอาให้ไม่เกินเที่ยงแล้วกัน เพราะเคนเป็นคนที่ชอบบริหารเวลาในตัวเองพอสมควรครับ
เวลาไหนควรทำอะไร เช่น เวลาเช้า เรากินข้าวได้ถึงตอนไหน เป็นต้น
เห็นไหมละครับว่าเรื่องมิติของเวลานั้นมีอิทธิพลต่อการรับรู้และการเรียนรู้ของเรามาก
มันจะช่วยในความพร้อมของเราเป็นที่สุด
“เพราะมิติของเวลานั้น มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้"